วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2552

มาใช้งานอีเมล์ POP3 ของ Yahoo กันเถอะ

ผู้อ่านบทความหลายท่านคงใช้งาน อีเมล์ของ Yahoo กันอยู่แล้ว แต่อาจจะยังไม่ทราบว่าอีเมล์ของ Yahoo สามารถติดตั้งให้รับ-ส่งอีเมล์แบบ POP3 จาก Microsoft Outlook หรือ Outlook Express ได้ ซึ่งการรับ-ส่งอีเมล์แบบ POP3 มีประโยชน์ดังนี้ครับ
  • เก็บอีเมล์และไฟล์แนบต่างๆไว้ในเครื่องของเรา
  • เปิดอีเมล์อ่านได้แม้ไม่ได้เชื่อมต่ออินเตอร์
  • จัดการอีเมล์อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การส่งอีเมล์เป็นแบบมืออาชีพ


ถ้าท่านผู้อ่านยังไม่มีแอคเคาท์ของ Yahoo ก็ต้องลงทะเบียนกันก่อน โดยลิงค์ไป url ที่นี่ครับ http://mail.yahoo.com หลังจากนั้นก็กด Sign Up

จากนั้นเลือก Yahoo! เว็บไทย แล้วป้อนข้อมูลส่วนตัวของเรา

ถ้าไม่อยากรับอีเมล์โฆษณาของ Yahoo ก็เอาเครื่องหมายถูกตรงหน้า ติดต่อฉันเป็นครั้งคราวเกี่ยวกับข้อเสนอพิเศษ ออกแล้วกด สร้างบัญชีผู้ใช้ของฉัน

หลังจากนั้นก็กลับไปล๊อกอินเข้า Yahoo mail อีกครั้งแล้วกด ตัวเลือก

กด การเข้าถึง POP และการส่งต่อ

ติ๊กที่ การเข้าถึงเว็บ&POP แล้วกด บันทึก

เสร็จเรียบร้อยแล้วก็เปิดโปรแกรม Microsoft Outlook Express โดยกดที่ Start->All Programs->Outlook Express ถ้าเป็นการใช้งาน Outlook Express ครั้งแรกก็จะให้เราเลือกเป็น default mail client จากนั้นกด Yes

ป้อนชื่อของเราแล้วกด Next

ป้อนอีเมล์แอดเดรสแล้วกด Next

ป้อน Incoming mail server: pop.mail.yahoo.co.th และ Outgoing mail server: smtp.mail.yahoo.co.th แล้วกด Next

ป้อนชื่อแอคเคาท์และรหัสผ่านแล้วติ๊ก Remember password จากนั้นกด Next

เรียบร้อยกด Finish

เสร็จแล้วเลือก Tools->Accounts...

เลือก pop.mail.yahoo.co.th กด Properties

ติ๊กเครื่องหมายถูกที่ My server requires authentication จากนั้นกด OK

กด Close

เรียบร้อยกดปุ่ม Send/Recv เพื่อรับอีเมล์จากเซิร์ฟเวอร์ของ Yahoo

จากนั้นอีเมล์ของ Yahoo ก็จะวิ่งเข้ามาที่ Inbox ของ Microsoft Outlook Express ส่วนการใช้งานหลังจากนี้คิดว่าคงจะใช้ได้ไม่ยากแล้วล่ะครับ

สร้างรายงานที่ดีกว่าด้วย SARG

ถึงแม้ว่าการอ่านล๊อกไฟล์ของ Squid จะทำให้เราทราบการเรียกใช้งานเว็บไซต์ต่าง ๆ ของผู้ใช้ในระบบได้ก็ตาม แต่ก็ได้ข้อมูลที่ใช้ประโยชนได้ไม่มากนัก ทั้งนี้เนื่องจากเป็นข้อมูลดิบเกินไป รูปแบบก็อ่านได้ยาก ดังนั้นจึงมีโปรแกรมโอเพ่นซอร์สที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อการวิเคราะห์ และสร้างรายงานในรูปแบบที่สะดวกต่อการนำข้อมูลมาใช้งานมากยิ่งขึ้น โปรแกรมประเภทนี้มีอยู่หลายตัว แต่ที่น่าสนใจและนำมาใช้งานได้อย่างดี คือ โปรแกรม SARG ( Squid Analysis Report Generator ) SARG เป็นโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับ Squid โดยจะทำการวิเคราะห์ข้อมูลจากล๊อกไฟล์ของ Squid แล้วนำมาสร้างรายงานข้อมูลเชิงสถิติในหลาย ๆ ด้านเพื่อให้ผู้ดูแลระบบสามารถอ่านข้อมูลได้อย่างง่ายดายในรูปของเอกสารเว็บ เพจ ( HTML ) ดังนั้นจึงง่ายต่อการนำเสนอผ่านเว็บเซิร์ฟเวอร์ ( Apache Web Server ) ซึ่งลีนุกซ์เองมักจะติดตั้งให้มาพร้อมอยู่แล้วเช่นเดียวกับซอฟต์แวร์สำคัญ อื่น ๆ

รูปแผนผังการทำงานของ SARG ร่วมกับบริการ Squid และ Apache
ผู้ ดูแลระบบจึงสามารถมอนิเตอร์ดูข้อมูลสถิติการใช้งานเว็บไซต์ต่าง ๆ ผ่านทางโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ได้จากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดก็ได้ในเครือ ข่าย แน่นอนว่าจะสั่งพิมพ์รายงานนั้น ๆ ออกมาได้ไม่ยากเช่นกัน แต่ถ้าหากข้อมูลเหล่านี้ต้องการปิดเป็นความลับ ( ไม่ต้องการให้ผู้ใช้งานทั่วไปเปิดดูรายงานนี้ได้ ) ก็ควรป้องกันด้วยการควบคุมการเข้าถึงเว็บเซิร์ฟเวอร์ ( Host Access Control ) หรือกำหนด Restriction เฉพาะบุคคลที่ได้รับอนุญาติเท่านั้นก็ได้ ( HTTP User Authentication ) ซึ่งเป็นคอนฟิกในส่วนความปลอดภัยของเว็บเซิร์ฟเวอร์นั่นเอง การติดตั้งและคอนฟิก SARG โปรแกรม SARG นี้เป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส สามารถหาดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของผู้พัฒนาโปรแกรมโดยตรงที่ http://web.onda.com.br/orso/ ซึ่งมีซอฟต์แวร์ที่น่าสนใจให้ดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรีอีกหลายตัวทีเดียว สำหรับ SARG จะมีไฟล์ที่ให้เลือกดาวน์โหลดทั้งแบบที่เป็น Tarball และเป็นแพคเกจ RPM ในที่นี้ผู้เขียนเลือกที่จะติดตั้งจากไฟล์ชนิด Tarball ซึ่งโปรแกรมนี้สามารถทำงานได้ดีบน Red Hat Linux ทุกรุ่นรวมทั้ง รุ่น 9.0 ซึ่งเป็นรุ่นปัจจุบันที่ผู้เขียนใช้ในการทดสอบครั้งล่าสุดนี้ด้วย หลังจากดาวน์โหลดไฟล์โปรแกรม sarg-1.4.1.tar.gz ขนาด 123KB มาแล้ว การติดตั้งสามารถทำได้ง่ายมาก โดยใช้คำสั่ง Tar แตกไฟล์ออกมาจะปรากฏเป็นไดเร็คทอรี่ sarg-1.4.1 ให้เข้าไปในไดเร็คทอรี่นี้ แล้วพิมพ์คำสั่งตามลำดับนี้ # ./configure
# pico Makefile แก้ไขข้อความบรรทัด MANDIR ตามรูป
หลังจากที่ใช้คำสั่ง ./configure แล้ว จำเป็นต้องปรับแก้ไขตำแหน่งของ Man page ของโปรแกรม SARG เล็กน้อย โดยแก้ไขข้อความบรรทัด MANDIR = /usr/local/man/man1 เป็น MANDIR = /usr/share/man/man1 แล้วบันทึกไว้ก่อนจะทำการคอมไพล์โปรแกรมต่อไป

ลำดับต่อมาให้พิมพ์คำสั่ง make และ make install ตามลำดับ โปรแกรมจะได้รับการคอมไพล์และติดตั้งในที่ ๆ กำหนดไว้ดังนี้
ตัวโปรแกรม SARG อยู่ที่ /usr/bin/sarg
คอนฟิกไฟล์อยู่ที่ /usr/local/sarg/sarg.conf
การคอนฟิกเบื้องต้นเพื่อให้ SARG ทำงานได้ใน Red Hat 9.0 จะต้องแก้ไขไฟล์คอนฟิกเล็กน้อย โดยใช้ Text Editor ที่คุณถนัดแก้ไขไฟล์ /usr/local/sarg/sarg.conf ที่บรรทัดข้อความต่อไปนี้ โดยค้นหาแล้วลบเครื่องหมาย # ที่คอมเมนต์ไว้ออก และแก้ไขตำแหน่งอ้างอิงใหม่ให้ตรงกับความเป็นจริงในระบบของเรา
access_log /var/log/squid/access.log
output_dir /var/www/html/squid_reports
มีข้อควรระวังคือ อย่าให้มีเครื่องหมายวรรค ( space ) หรือ Tab อยู่ท้ายบรรทัดข้อความทั้งสองเด็ดขาด มิฉะนั้นโปรแกรมจะทำงานผิดพลาด จุดนี้ทำให้ผู้เขียนเสียเวลาไปพอสมควรที่เดียว ต่อจากนั้นให้ทดสอบการทำงานของ SARG โดยพิมพ์คำสั่ง sarg แล้วกด Enter เพื่อให้ทำการสร้างรายงานเป็นครั้งแรก โดยก่อนจะทดสอบเช่นนี้ได้จะต้องมีการรัน Squid ให้บริการไปแล้วซักระยะหนึ่งเพื่อให้มีข้อมูลปรากฏอยู่ใน access.log ของ Squid เสียก่อน หาก SARG สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องจะปรากฏไฟล์ที่เป็นเว็บเพจขึ้นที่ output_dir ดังรูป


ตั้งเวลากระตุ้น SARG ด้วย cron โดยปรกติ แล้ว เราควรให้ SARG สรุปรายงานให้ทุก ๆ ช่วงเวลา เช่น สรุปทุก ๆ วันเป็นต้น ดังนั้นจึงต้องใช้โปรแกรม crond ซึ่งเป็น Schedule Jab Daemon ช่วยในการกระตุ้นให้ SARG วิเคราะห์สรุปรายงานของ Squid ในเวลาเที่ยงคืนของทุกวัน โดยเพิ่มข้อความต่อไปนี้ลงในไฟล์ /etc/crontab 0 0 * * * root /usr/bin/sarg หาก โปรแกรม Apache Web Server ในเครื่องเซิร์ฟเวอร์ลีนุกซ์ของเราทำงานอยู่ตามปรกติ ผู้ใช้งานจะสามารถเปิดหน้าเว็บเพจของ SARG ที่รายงานสถิติของ Squid ได้ผ่านโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ทั่วไป มีหน้าจอที่รายงานข้อมูลให้หลากหลายรูปแบบ ดังรูปต่อไปนี้


สถิติเครื่องลูกข่าย( หรือยูสเซอร์ ) ที่ใช้งานเว็บมากที่สุด




รายชื่อเว็บไซต์ที่มีการเรียกใช้งานมากที่สุด




100 อันดับเว็บไซต์ที่ผู้ใช้นิยมเข้าชม




หน้าแรกของ SARG จะแสดงเรียงตามวันที่สรุปรายงาน


Credit http://www.itdestination.com/lsc/solution3.php

How to install AD on Windows Server 2008

Introdution

สำหรับบทความนี้เป็นตัวอย่างลง AD บน New Infrastucture ซึ่งเราจะใช้ Windows 2008 เป็น AD ทั้งหมด โดยในตัวอย่างนี้เรามี AD 2 ตัวเพื่อทำหน้าที่ Backup ซึ่งกันและกัน ในกรณีตัวใดตัวหนึ่งเสียสามารถทำงานทดแทนกันได้ สำหรับวิธีการลงนั้นไม่ยากซึ่งค่อนข้างจะเหมือนการลงบน Windows 2003 เพียงแต่มีลูกเล่นเพิ่มเติมขึ้นมาซึ่งเราจะมาดูกัน

Solution

โดยเราสมมติสถานการณ์ว่า บริษัทต้องการเปลี่ยน Enverlopment จาก Work Group มาเป็น Domain ซึ่งได้ทำการซื้อ Server มาใหม่ 2 ตัวเพื่อทำ Domain Controller

Step by Step

1. หลังจากทำการลง Windows เรียบร้อบ ( Install OS, Driver and preconfig network ) เราจะต้องทำการสั่ง Install role ลงบน Server เนื่องจากการลงบน Windows 2008 จะไม่เปิด service by default ดังนั้นเราจึงต้องทำการ prepare role

1.1 Open Server Management

1.2 Add Roles

2. หลังจาก Add Roles เรียนร้อยเราจะทำการสั่ง dcpromo ที่ RUN

2.1. ทำการเลือกรูปแบบของ Domain ที่เราจะติดตั้ง ในที่นี้เราเลือก New in forest

2.2. หลังจากเราใส่ Parameter ต่างๆเราจะมาถึงหน้าที่ทำการเลือก Domain Level ซึ่งตรงนี้จะมีผลต่อการใช้งาน Feature ของ AD ในที่นี้เราเลือก 2008

2.3. Install Additional Option เนื่องจากเรายังไม่มี DNS เราก็เลือก Install DNS Server

2.4. หลังจาก Click Next จะมี POP-UP ขึ้นมาเราเลือก Yes เลยครับ เนื่องจากเรายังไม่มี DNS Recorde เลย

2.5. หลังจากในก็จะมีการให้ใส่ Parameter จนมาถึงหน้าสุดท้ายคือการสรุปสิ่งที่เราได้ทำมาตามเมนู ซึ่งเราสามารถ save เก็บไว้ได้ครับ ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ Windows ก็จะทำการลง Service ให้เราแล้วก็ทำการ Reboot Server

2.6. หลังจาก Reboot Server เรามาตรวจสอบกันว่าถูกต้องไหม สามารถเข้า Active Directory Users and Computers ได้ไหม

3. ในส่วนของ Additional Domain ขั้นตอนการ Prepare จะเหมือนกับตัว Master ครับดังนั้นจึงขอข้ามามาที่ตอนสั่ง DCPROMO เลยแล้วกันครับ

3.1 DCPROMO เลือก Exitsting Forest ตามรูปครับ

3.2 หลังจากนั้นก็จะมีการให้ใส่ Parameter ต่างๆ จนมาถึงขั้นตอนติดตั้ง Additional Option ให้เราเลือกแค่ DNS Server ก็พอครับแต่ถ้าอยากเลือก GC ด้วยก็ไม่ว่ากันครับ

3.3 หลังจากกด Next จะมี POP-UP มาถาม ว่าคุณต้องการ Transfer Role Infrastucture ไหม อันนี้ถ้าเรามีหลายๆ Domain ใน Forest เดี๋ยวก็ทำตามที่เขาบอกไปครับ แต่เนื่องจากเรามีแค่ Domain เดี๋ยวแล้วเราต้องการให้ทุก Role อยู่บน Server เดี๋ยวกันเพื่อการ Maintanace ก็ไม่ต้อง Transfer ก็ได้ครับ

3.4 จนมาถึงหน้าสุดท้ายคือการสรุปสิ่งที่เราได้ทำมาตามเมนู ซึ่งเราสามารถ save เก็บไว้ได้ครับ ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ Windows ก็จะทำการลง Service ให้เราแล้วก็ทำการ Reboot Server

4. หลังจากนั้นเราจะมาทำการตรวจสบกันครับว่าใช้งานได้ไหม

4.1 Open Active Directory Sites and Services จะเห็นว่ามีการสร้าง Connection เข้าหากันเพื่อทำการ Replication ข้อมูล

4.2 CMD -> repadmin /replsummary เพื่อทำการ Check ข้อมูลที่ทำการ replication

Summary

จะเห็นได้ว่า การติดตั้ง Active Directory บน Windows 2008 นั้นไม่ใช่เรื่องยากครับ อาจจะมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่ได้ยากจนเราไม่เข้าใจ เพราะจะมีคำอธิบายทุกเมนูระหว่างเราติดตั้งครับ ยิ่งถ้าเคยทำบน Windows 2003 แล้วยิ่งเข้าใจง่ายขึ้นครับ


Credit http://www.thaiserv.net